ดูแลตัวเอง’ก่อน’มีประจำเดือนยังไงดี??
ช่วงก่อนมีประจำเดือนสองสัปดาห์จะเป็นช่วงหลังรังไข่ตกไข่ จะเข้าสู่ช่วงคอร์ปัสลูเทียม ช่วงนี้ปริมาณฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนจะเพิ่มขึ้น จนส่งผลให้เกิดอาการก่อนมีประจำเดือนต่างๆ ซึ่งได้แก่ อาการบวมน้ำก่อนมีประจำเดือน ท้องผูก อารมณ์แปรปรวน โมโหง่ายหรือเศร้าโศกเสียใจ เสียน้ำตาง่าย
ช่วงนี้อุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้น แพทย์แผนจีนจะจัดให้อยู่ในช่วง หยินแปรเป็นหยาง และเข้าสู่ หยางระยะยาว ช่วงนี้เราเลยจะบำรุงหยางเป็นหลัก วันนี้แม่นางทานตะวันจะพูดถึงวิธีดูแลตัวเองก่อนมีประจำเดือนกันเจ้าค่ะ
หลีกเลี่ยงการกินอาหารฤทธิ์เย็น

การกินอาหารฤทธิ์หนาวเย็นมากเกินไปจะทำให้มดลูกเย็นไปด้วย ส่งผลต่อการบีบตัวขับเลือดของมดลูก ทำให้ปวดท้องเมนส์มากๆหรือมีลิ่มเลือด เลือดเมนส์อาจจะน้อยลงจนอาจทำให้ไม่ตั้งครรภ์ก็ได้ ช่วงสองอาทิตย์ก่อนเป็นเมนส์ถึงวันหมดเมนส์ เลยไม่ควรกินอาหารฤทธิ์เย็น เช่น เครื่องดื่มเย็น แตงโม แพร์ กีวี่ แก้วมังกร ผักสด
กินอาหารที่มีเส้นใยสูง ลดอาหารเค็ม

เพราะช่วงก่อนเราจะเป็นเมนส์ ปริมาณฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนจะเพิ่มขึ้น หรือมีน้ำสะสมในร่างกายจนเกิดอาการบวมน้ำ ปวดหัว กระเพาะลำไส้บีบตัวช้าจนมีอาการท้องผูกก่อนเป็นเมนส์ ในช่วงนี้จึงควรกินอาหารจำพวกธัญพืช อาหารจำพวกรากและหัว ข้าวกล้อง ผักและผลไม้ที่มีเส้นใยสูง เพื่อช่วยในการขับถ่าย ลดอาหารเค็ม อาหารหมักดอง เพื่อลดการสะสมของน้ำในร่างกาย เลยเป็นที่มาของอาการบวมน้ำ
ลดเครื่องดื่มจำพวกคาเฟอีน

ผู้หญิงหลายคนชอบดื่มชา กาแฟเพื่อให้กระปรี้กระเปร่า แต่คาเฟอีนจะทำให้อาการทางจิตใจ เช่น ความกังวล ความเครียดที่สะสมในใจหนักกว่าที่เป็นอยู่
ช่วงก่อนมีประจำเดือนจะเป็นช่วงที่เกิดอาการก่อนมีประจำเดือนหรืออาการ PMS ดังนั้นการดูแลตัวเองให้ถูกวิธีจึงเป็นการลดการเกิดอาการก่อนมีประจำเดือน ทำให้เราไม่มีอาการบวมน้ำก่อนมีประจำเดือน ท้องผูก อารมณ์แปรปรวน โมโหง่ายหรือเศร้าโศกเสียใจจนต้องเสียน้ำตา วันนี้แม่นางทานตะวันขอลาแต่เพียงเท่านี้ พบกันต่อได้ที่ดูแลตัวเองช่วงมีประจำเดือนทำยังไงดีนะ??

รวมเคล็ดลับบำรุงแก้ปวดประจำเดือน
แนะนำสูตรวิจัยอาหารเสริมNV7
แก้ปวดประจำเดือน
🌿 ไม่ใช่แค่แก้ปวด แต่ป้องกันไม่ให้ปวดอีกต่อไป!
ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์ทางไลน์
