ปวดท้องประจำเดือน เป็นโรคพวกนี้หรือเปล่า?

สำหรับใครที่คนรอบตัวปวดท้องประจำเดือนกันหมดอาจจะรู้สึกว่าการปวดท้องประจำเดือนนี่มันเป็นเรื่องปกติสามัญทั่วๆไป แต่ความจริงแล้วการไม่ปวดท้องเมนส์ต่างหากที่ต้องเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่กลายเป็นลาภอันประเสริฐสำหรับคนแข็งแรง!! การปวดท้องเมนส์อาจเป็นสัญญานเตือนอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการบอกถึงสภาพร่างกายของเราหรือโรคที่ซ่อนอยู่ แล้วโรคร้ายแรงพวกนี้มีอะไรบ้างนะ??

ติ่งเนื้อ (Polyps)

ติ่งเนื้อในโพรงมดลูกส่วนใหญ่จะไม่กลายเป็นมะเร็งและไม่ทำให้เกิดอาการอะไรขึ้น แต่อาจทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติและส่งผลต่อการมีลูกในอนาคตได้ สามารถตรวจได้ด้วย TVS และการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ถ้ามีเลือดออกทางช่องคลอด แนะนำให้นำติ่งเนื้อออกด้วยการส่องกล้องโพรงมดลูกและวิเคราะห์เนื้อเยื่อด้วยการประเมินทางจุลพยาธิวิทยา

มดลูกโต (Adenomyosis)

ภาวะอะดีโนไมซิส เป็นรูปแบบพิเศษของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ โดยมีการเจริญเติบโตของเยื่อเมือกในเยื่อบุโพรงมดลูกในผนังมดลูก ผู้หญิงที่มีภาวะอะดีโนไมซิสมักมีเลือดออกผิดปกติในมดลูก (มีประจำเดือนมามากผิดปกติ) ปวดระหว่างมีประจำเดือนหรือมีเพศสัมพันธ์ และมีประวัติภาวะมีบุตรยาก ความเด่นชัดของภาวะอะดีโนไมซิสในประชากรหญิงไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่จากการศึกษาของ TVS พบว่าจะพบภาวะอะดีโนโมซิสมากกว่า 30% เมื่ออายุมากกว่า 40 ปี

เนื้องอกในมดลูก (Leiomyomas)

เนื้องอกในมดลูก เป็นเนื้องอกที่ไม่ร้ายแรง พบได้ทั่วไปที่ชั้นผนังมดลูก ระหว่างอายุ 30 ถึง 40 ปี พบในผู้หญิง 1 ใน 10 คน และในช่วงอายุ 40-50 ปี ผู้หญิงทุกๆ 4 คนจะมีเนื้องอกในมดลูก สิ่งเหล่านี้สามารถบุกรุกเข้าไปในโพรงมดลูก เปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูก และส่วนใหญ่จะทำให้เกิดภาวะประจำเดือนมามาก บางครั้งทำให้เกิดภาวะโลหิตจางอย่างรุนแรง เนื้องอกในมดลูกไม่เป็นพิษเป็นภัยแต่เติบโตได้รวดเร็วมาก และยากที่จะแยกออกจากมะเร็งประเภท – มะเร็งกล้ามเนื้อเรียบมดลูก เนื้องอกบางชนิดมีพฤติกรรมเหมือนติ่งเนื้อ หากถูกขับออกจากมดลูก จะสามารถมองเห็นการเกิดของเนื้องอกได้

เนื้อร้าย หรือ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ
(Malignancy or endometrial hyperplasia)

เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ มีเซลล์ผิดปกติและไม่มีเซลล์ผิดปกติ การรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติเป็นรายบุคคล ขึ้นอยู่กับการมีภาวะผิดปกติและปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ

เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติในทางจุลพยาธิวิทยากำหนดไว้ว่าเป็นเนื้อเยื่อต่อมในเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดปกติ ในผู้หญิงวัยก่อนหมดประจำเดือนมักเกิดขึ้นเมื่อการตกไข่ไม่สม่ำเสมอหรือไม่มีการตกไข่ เช่น ในกลุ่มอาการรังไข่หลายใบ ในสตรีวัยหมดประจำเดือนที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง เช่น ในกรณีที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงเพียงอย่างเดียวหรือในกรณีที่เป็นโรคอ้วน

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometrial cancer)

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกพบได้น้อยในสตรีวัยก่อนหมดประจำเดือน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เป็นเสมอไป มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกเป็นได้ในสตรีวัยหมดประจำเดือนหรือผู้หญิงทุกคนถ้ามีเลือดออกทางช่องคลอด ผู้ป่วยโรคอ้วนมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกโดยไม่คำนึงถึงอายุ เนื่องจากผู้ป่วยโรคอ้วนจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนภายนอกในระดับสูง เพราะการเปลี่ยนแอนโดรเจนเป็นเอสตราไดออลในเนื้อเยื่อไขมัน สิ่งนี้กลายเป็นแหล่งที่มาของฮอร์โมนเอสโตรเจนภายนอกที่ไม่ได้รับการค้านในภาวะผิดปกติของการตกไข่ ในสตรีวัยหมดประจำเดือนที่มีเลือดออกทางช่องคลอด สาวๆ ควรปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ นะ

มะเร็งกล้ามเนื้อเรียบมดลูก (Leiomyosarcomas)

มะเร็งกล้ามเนื้อเรียบมดลูกเป็นมะเร็งที่หายากมากในผนังกล้ามเนื้อมดลูก ส่วนใหญ่มักค้นพบเมื่อมีการวิเคราะห์จุลพยาธิวิทยาหลังการผ่าตัดมดลูกออก เนื่องจากมีเลือดออกมากหรือปวดท้องประจำเดือน โดยสันนิษฐานเริ่มต้นอาจบ่งชี้ว่าเป็นเนื้องอกในมดลูก

มะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer)

หนึ่งในมะเร็งที่ตอนนี้มีการรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนป้องกันไว้ มะเร็งรูปแบบนี้กำลังลดลงเนื่องจากโครงการฉีดวัคซีนและคัดกรองเชื้อไวรัสแปปิโลมาในมนุษย์(HPV) HPV เป็นไวรัสที่พบได้ในผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกมากกว่า 99% ในสังคมที่ไม่มีการฉีดวัคซีน HPV หรือไม่มีโปรแกรมตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูกเป็นเรื่องปกติ ผู้หญิงที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือผู้หญิงที่ติดเชื้อ HIV ที่ไม่ได้รับการรักษามีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ HPV

ที่พบบ่อยที่สุดคือมะเร็งผิวหนังชนิดสเควมัสเซลล์ (75%) และมะเร็งชนิดต่อม (23%) แนวโน้มการตรวจพบมะเร็งชนิดนี้คือการตรวจหาเชื้อ HPV ที่อวัยวะเพศโดยการสุ่มตัวอย่างทางช่องคลอดหรือการตรวจปากมดลูก เพื่อให้สามารถค้นหาและรักษารอยโรคก่อนเกิดมะเร็งได้ อาการเลือดออกระหว่างรอบประจำเดือน และเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์เป็นอาการหลักในมะเร็งระยะเริ่มแรก

ภาวะเลือดหยุดยาก /ภาวะเลือดออกผิดปกติ
(Coagulopathy /bleeding disorders)

ในกลุ่มผู้หญิง (ไม่ว่าอายุเท่าไร) ที่มีเลือดออกมาก มีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือดร้อยละ 20 สหพันธ์นรีเวชวิทยาและสูติศาสตร์สากล(FIGO) แนะนำให้คัดกรองเพื่อตรวจหาความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือดในผู้หญิงที่มีเลือดออกผิดปกติในมดลูก ผู้หญิงที่มีภาวะเลือดหยุดยากอาจเกิดลิ่มเลือดในประจำเดือน และอาจประสบภาวะประจำเดือนมามาก

ภาวะตกไข่ผิดปกติ (Ovulation disorders)

ภาวะตกไข่ผิดปกติ คือ การไม่มีไข่ตกออกมาจากรังไข่ โดยที่อาจมีหรือไม่มีการเจริญของฟอลลิเคิลในรังไข่ก็ได้ เมื่อไม่มีการตกไข่ก็จะไม่มีการสร้างคอร์ปัสลูเตียม (Corpus luteum) ซึ่งมีหน้าที่สร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่จะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกกลายเป็นประจำเดือน ทำให้ประจำเดือนไม่มา หรือในรายที่มีภาวะไม่ตกไข่เรื้อรัง อาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกที่หนาตัวมีการหลุดลอกตัวผิดปกติ เกิดภาวะประจำเดือนมามาก หรือเลือดออกกะปริดกะปรอยได้

นอกจากจะทำให้เกิดความผิดปกติของประจำเดือนแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติและมะเร็งโพรงมดลูก นอกจากนั้น หากไม่รักษาสาเหตุของการเกิดภาวะไม่ตกไข่ อาจนำไปสู่ความผิดปกติของระบบต่างๆ ในร่างกายอันเกิดจากภาวะแอนโดรเจนเกิน ภาวะดื้ออินซูลิน ภาวะกระดูกบาง และยังเป็นสาเหตุสำคัญที่สามารถแก้ไขได้ของภาวะมีบุตรยากอีกด้วย

ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS)

ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบหรือ PCOS เป็นโรคต่อมไร้ท่อที่พบบ่อยที่สุดในสตรีวัยเจริญพันธุ์ กลุ่มอาการนี้ตั้งชื่อตามลักษณะเฉพาะของซีสต์ถุงน้ำรังไข่ขนาดเล็กหลายตัวที่เห็นในอัลตราซาวนด์ใกล้กับพื้นผิวรังไข่ แต่สิ่งสำคัญที่จะต้องทราบก็คือนี่เป็นสัญญาณและไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริงของความผิดปกติ

PCOS มักทำให้เกิดประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนมามาก ผมร่วง สิวขึ้น ปวดอุ้งเชิงกราน ตั้งครรภ์ลำบาก ลักษณะหลักของกลุ่มอาการนี้ ได้แก่ ภาวะฮอร์โมนแอนโดรเจนมากเกินไป ไม่มีการตกไข่ และการดื้อต่ออินซูลิน

ภาวะรังไข่หยุดทำงาน (Premature ovarian insufficiency)

ภาวะรังไข่หยุดทำงาน คือ ภาวะที่รังไข่ของสตรีที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี ไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ หรือก็คือในผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี มีภาวะประจำเดือนขาดและภาวะฮอร์โมนโกนาโดโทรปิกเกิน มีภาวะรังไข่หยุดทำงาน เพื่อลดอาการของหลอดเลือด ป้องกันโรคกระดูกพรุนและโรคหลอดเลือดหัวใจ

ภาวะขาดประจำเดือน (Functional hypothalamic amenorrhea)

ภาวะขาดประจำเดือนจากการทำงานของไฮโปทาลามัสเป็นภาวะตกไข่เรื้อรัง ภาวะนี้สามารถอธิบายได้ว่าเกิดจากการออกกำลังกายมากเกินไป การลดน้ำหนัก หรือความเครียดหลังจากการเปลี่ยนแปลงของชีวิต

เห็นแล้วว่าการปวดท้องประจำเดือนอาจไม่ใช่แค่ปวดท้องประจำเดือนนะ ทุกคนดูแลสุขภาพร่างกายกันดีๆ มดลูกมีความสำคัญอย่างมากต่อสุขภาพร่างกายของผู้หญิง ถ้าพบความผิดปกติจากประจำเดือนให้รีบไปหาหมอเลยนะ อย่าปล่อยทิ้งไว้ให้ปวดท้องประจำเดือนเรื้อรังจนเป็นโรคเหล่านี้นะ!!!

Tips

รวมเคล็ดลับบำรุงแก้ปวดประจำเดือน

  • ปวดเดือนนี้ เดือนหน้า เดือนต่อไป? ถึงเวลาฟื้นฟูแล้ว!
  • รวมสาระน่ารู้การดูแลสุขภาพผู้หญิง
  • ติดตามสาระน่ารู้สุขภาพผู้หญิงผ่านไลน์เลย
PRODUCT

แนะนำสูตรวิจัยอาหารเสริมNV7

แก้ปวดประจำเดือน

🌿 ไม่ใช่แค่แก้ปวด แต่ป้องกันไม่ให้ปวดอีกต่อไป!

  • เบื่อมั้ย? กับอาการปวดท้องประจำเดือนที่ทรมานจนต้องนอนซม ❓❓❓ ปวดท้องเมนส์จนหมดแรง? 😭😭😭
  • บอกลาความทรมานในทุกเดือน ด้วยตัวช่วยดีๆ ไม่ต้องทนปวดอีกต่อไป
  • อาหารเสริมจากธรรมชาติ ฟื้นฟูมดลูกจากต้นเหตุ บอกลาปัญหาปวดประจำเดือน!

ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์ทางไลน์

Similar Posts